ชีวิตอนิจจา😭 อดีตนักร้องดังป่วยทรุดไร้บ้าน ลูกหลานไม่สนใจ ตายอย่างน่าเวทนา

โหดร้ายจริงๆทำไมถึงหยิ่งแต่ยอมเจ็บกับน้องให้พูดจานี่คือเนื้อเพลงโรงแรมใจที่ขอเพลงคุ้นหูเป็นอย่างดีนักร้องต้นฉบับที่ร้องบันทึกเสียงเพลงโรงแรมใจคนแรกสุดคือกิ่งแก้วศรีสาครกิ่งแก้วศรีสาครมีชื่อจริงว่าปลอดภัยนิโนรีเกิดเมื่อวันที่6เมษายนปี2489ที่ตำบลนาดีอำเภอเมืองจังหวัดสมุทรสาครมีพี่น้องทั้งหมด3คนเป็นลูกสาวคนโตมีน้องชาย2คนครอบครัวมีอาชีพทำนาข้าวแต่เธออาศัยอยู่กับคุณย่าและคุณอาซึ่งรักและหวงมาตั้งแต่เด็กเห็น

ว่าเธอเป็นคนตัวเล็กด้วยจึงไม่ค่อยให้ทำงานหนักให้ช่วยเลี้ยงหลานที่แบร์บอกบ้างทำงานเบาๆบ้างเด็กหญิงประไพชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กแต่ยังไม่ค่อยได้แสดงออกส่วนใหญ่ก็ร้องเพลงกล่อมเด็กยามช่วยครอบครัวเลี้ยงหลานหลังจากเรียนจบชั้นป4ที่วัดบางปิ้งสมุทรสาครในใจท้องเด็กหญิงประไพซึ่งเป็นคนเรียนเก่งก็อยากเรียนต่อคุณครูเข้ามาช่วยคุยกับครอบครัวว่าเธอเป็นเด็กหัวดีน่าจะได้เรียนต่อนะแต่คุณอาผู้ดูแลบอกว่าเธอเป็นลูกผู้หญิงอยู่บ้านนอกคอกนา

ไม่จำเป็นต้องเรียนอะไรเยอะแยะก็เลยไม่ได้เรียนแม้จะเสียดายแต่ด้วยความเป็นเด็กว่าง่ายจึงทำตามที่ผู้ปกครองเห็นสมควรความสนใจด้านเสียงเพลงของเด็กหญิงประไพเริ่มเบ่งบานหลังเรียนจบเวลามีประกวดร้องเพลงแถวๆใกล้บ้านก็จะไปร่วมประกวดอยู่เรื่อยๆโดยนั่งรถเมล์บ้างรถสองแถวบ้านไปกับเพื่อนๆเวทีแรกที่เธอไปร่วมประกวดก็คืองานประจำปีที่วัดหงอนไก่ตำบลคลองมะเดื่ออำเภอกระทุ่มแบนจังหวัดสมุทรสาครเธอใช้เพลงด่วนพิศวาสของผ่องศรีวรนุชใน

การประกวดบนเวทีวันนั้นเธอร้องอยากเป็นธรรมชาติไม่เคอะเขินเพราะเป็นเพลงที่ชอบร้องร้องเล่นๆอยู่บ้านเป็นประจำอยู่แล้วปรากฏว่าจากผู้เข้าประกวดทั้งหมด10กว่าคนนกน้อยนาดีซึ่งเป็นชื่อที่เด็กหญิงประไพตั้งขึ้นมาเองเพื่อใช้ในการ[เพลง][เพลง]คุณอ่านให้ฟังดังนั้นก็เห็นใจและอนุญาตพลางบอกว่าถ้าไปก็ทำตัวดีๆนะประไพนินโนรีซึ่งตอนนั้นอายุราวๆ18ปีจึงได้ไปอยู่กับวงดนตรีเทียนชัยสมยาประเสริฐโดยอำนวยรุ่งเรืองเอารถมารับที่สมุทรสาครแล้วพาไป

ยังสำนักงานวงดนตรีเทียนชัยซึ่งตั้งอยู่ซอยวัดดงมูลเหล็กกรุงเทพฯที่นั่นมีนักร้องในสังกัดเยอะทั้งหญิงและชายร่วม10คนเช่นเมืองทองสัญญาประเสริฐแววตาพรรณาภัยเป็นต้นช่วงแรกเธอได้รับหน้าที่ช่วยงานจิปาถะของสำนักงานเช่นทำกับข้าวปัดกวาดเช็ดถูแต่ส่วนใหญ่ที่ได้ทำประจำก็คือพาเด็กไปซื้อกับข้าวไปตลาดเวลาผ่านไปเดือนกว่าเธอก็ได้บันทึกเสียงเพลงแรกในชีวิตคือเพลงสัญญานาคสั่งแต่งโดยฉลองเผือกจันทึกซึ่งเทียนชัยสัญญาประเสริฐเป็นคนเอาเพลงนี้มาให้และตั้งชื่อนักร้อง

ให้เธอว่ากิ่งแก้วศรีสาครโดยนามสกุลศรีสาครก็อินกับถิ่นฐานบ้านเกิดจังหวัดสมุทรสาครแม้เพลงแรกในชีวิตของเธอจะยังไม่โด่งดังเปรี้ยงปร้างแต่กิ่งแก้วศรีสาครก็ดีใจที่ได้มีเพลงเป็นของตัวเองได้เป็นนักร้องเต็มตัวดั่งใจฝันและได้ออกเดินสายไปกับวงดนตรีหน้าเวทีแฟนๆก็ปรบมือต้อนรับอย่างเกรียวกราวหัวหน้าก็ส่งเสริมให้เธอได้มีโอกาสเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเด็กสาวที่เคยอยู่แต่ละแวกแถวบ้านตนเองช่วงนั้นเองที่ทำให้เธอ

ได้รู้จักและร่วมงานกับไวพจน์เพชรสุพรรณซึ่งรู้จักคลุกคลีรักใคร่เป็นเพื่อนรุ่นน้องของหัวหน้าเทียนชัยไปมาหาสู่กันอยู่เสมอเวลากิ่งแก้วศรีสาครจะร้องเพลงก็ได้พี่ไวพจน์เป็นคนช่วยชี้แนะบอกเคล็ดลับให้ต่อมาเมื่อเพลงแบ่งสมบัติของไวพจน์เพชรสุพรรณโด่งดังเธอจึงได้ร้องเพลงแก้คือเพลงบ้าสมบัติซึ่งเป็นผลงานการแต่งของครูสนิทมโนรัตน์เพลงนี้กระแสดีทำให้แฟนเพลงรู้จักกิ่งแก้วศรีสาครมากขึ้นได้รับจดหมายจากทางบ้านล้นหลามพวงมาลัยหน้าเวที

ก็ล้นคอหลายรอบยามที่เธอไปเดินสายร้องเพลงตามต่างจังหวัดต่อมากิ่งแก้วก็ได้ร้องเพลงแก้กับไวพจน์อีกคือเพลงจูบน้องก่อนนอนกับเพลงกล่อมน้องก่อนนอนก็เพิ่มชื่อเสียงของเธอขึ้นไปอีกเพลงที่ทำให้ชื่อเสียงของกิ่งแก้วศรีสาครโดดเด่นยิ่งขึ้นคือเพลงอาจ๋าซึ่งเป็นเพลงร้องแก้กับเพลงหลานสาวเพลงที่สร้างชื่อให้กับเมืองทองสมญาประเสริฐซึ่งก็เป็นผลงานการแต่งของครูสนิทมโนรัตน์นักแต่งเพลงประจำวงเทียนชัยสัญญาประเสริฐนั่นเองครูสนิทมโนรัตน์

ยังได้แต่งเพลงโรงแรมใจให้กิ่งแก้วศรีสาครร้องด้วยเพลงนี้ในช่วงแรกๆใหม่ๆที่ปล่อยออกมายังไม่ถือว่าดังมากนักแต่ตอนหลังๆกลายเป็นเพลงที่แฟนเพลงนิยมชมชอบและจะขอให้เธอร้องทุกข์เวทีที่ไปปรากฏตัวและยังทำให้เธอได้รับรางวัลทรงเกียรติในงานลูกทุ่งกึ่งศตวรรษด้วยกิ่งแก้วศรีสาครถือเป็นนักร้องดาวเด่นประจำวงดนตรีเทียนชัยสมญาประเสริฐซึ่งในยุคนั้นถือว่าเป็นวงที่มีชื่อเสียงเธอร่วมงานอยู่กับวงนี้ราวๆ20ปีได้ร้องเพลงบันทึกเสียง

ประมาณ50-60เพลงจากนั้นหัวหน้าเทียนชัยสัญญาประเสริฐก็ยุบวงต่อมาไวพจน์เพชรสุพรรณได้ชวนเธอไปร้องเพลงที่วงด้วยเธอจึงได้ร้องเพลงหมั่นไส้ไวพจน์ซึ่งเป็นเพลงแก้กับเพลงแตงเถาตายผลงานการแต่งของครูทองใบรุ่งเรืองกระแสเพลงหมั่นไส้ไวพจน์ดีมากถือเป็นช่วงที่ชื่อเสียงของเธอพุ่งขึ้นขีดสุดช่วงนั้นเธอมีอายุ40กว่าปีแล้วแต่เวลาเดินสายกับวงดนตรีไวพจน์เพชรสุพรรณแฟนเพลงก็ต้อนรับอย่างอบอุ่นเรียกว่ายังกรี๊ดกร๊าดเกลียวกราวเหนียวแน่นเช่นเคยช่วงนั้นนักร้องประจำวง

ดนตรีไวพจน์ก็มีทรายทองณโคราชเพชรโพธารามเป็นต้นอยู่กับวงไวพจน์ได้ราวๆ2ปีเธอก็ออกจากนั้นปทุมทิพย์บัวตามะซึ่งเป็นนักร้องที่รู้จักกันมานานได้ชวนเธอไปร้องเพลงกับวงดนตรีสมานมิตรเกิดกำแพงซึ่งเป็นคู่ชีวิตของปทุมทิพย์บัวตะมะอยู่ได้2ปีกิ่งแก้วศรีสาครก็ผันตัวออกมาเป็นนักร้องอิสระรับจ้างร้องเพลงทั่วไปรวมเวลาที่เธอร้องเพลงอยู่ในวงการลูกทุ่งก็ร่วม40กว่าปีมีเพลงที่บันทึกเสียงไว้กว่า100เพลงเชื่อบั้นปลายชีวิตกิ่งแก้วศรีสาคร

สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงมือข้างขวาล็อคทั้งมือทำให้หยิบจับอะไรไม่ได้เลยเธอจึงใช้งานมือซ้ายได้ข้างเดียวจากนั้นร่างกายซีกขวาก็อ่อนแรงเกลี้ยงตามมือไปด้วยแต่ว่ายังเดินไหวอยู่นอกจากร้องเพลงแล้วเธอก็ทำงานอื่นไม่ได้เพราะใช้มือได้ข้างเดียวมีลูก3คนเป็นหญิง1ชาย2แต่ว่าเหลือ2คนเพราะลูกผู้หญิงเสียชีวิตแล้วแต่ว่าลูกๆก็ต่างมีชีวิตของตัวเองตอนแรกเธอพักอาศัยอยู่กับหลานชายที่หมู่บ้านสมุดนิเวศน์แถวสมุทรปราการช่วงปี2555ถึง

2556กิ่งแก้วตระเวนร้องเพลงทั้งร้องทั้งแหล่และรับทำขวัญนาคเพื่อหารายได้มารักษาตัวจากนั้นก็ตรวจเจอเนื้องอกในสมองต้องผ่าตัดสมองและต่อมาก็เป็นอัมพฤกษ์ปี2557กิ่งแก้วไปอยู่สถานแรกรับคนไร้ที่พึ่งสุดท้ายปากเกร็ดนนทบุรีเนื่องจากไม่มีคนดูแลปี2558มีรายงานข่าวในหนังสือพิมพ์คมชัดลึกว่าสลดกิ่งแก้วนักร้องต้นฉบับเพลงโรงแรมใจไร้บ้านอยู่มีใจความในข่าวว่าหลังผ่าตัดเนื้องอกที่สมองตั้งแต่ปี2556กิ่งแก้วศรีสาครนักร้องลูกทุ่ง

ต้นฉบับเพลงโรงแรมใจวัย67ปีร่างกายซีกขวาใช้การไม่ได้ไร้ลูกหลานดูแลล่าสุดต้องมาอาศัยอยู่สถานแรกรับคนไร้ที่พึ่งสุดท้ายนนทบุรีภาวนาชบาไพรหญิงดาวจันทร์สวัสดิ์นักร้องลูกทุ่งรุ่นพี่รุ่นเยี่ยมกิ่งแก้วศรีสาครให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวบันเทิงคมชัดลึกภายในสถานแรกครับคนไร้ที่พึ่งสุดท้ายปากเกร็ดนนทบุรีด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยชัดซึ่งเป็นผลมาจากการผ่าตัดสมองว่าก็อยู่ที่นี่มาหลายเดือนแล้วหลังจากผ่าตัดสมองก็ต้องออกจากโรงพยาบาลมา

อาศัยที่สถานแรกรับคนไร้ที่พึ่งสุดท้ายเพราะไม่มีบ้านอยู่ลูกหลานก็ไม่ได้มาดูแลอย่ากลับบ้านอยากร้องเพลงได้อีกถ้าให้เลือกอยากมีร่างกายที่แข็งแรงจะได้ทำงานเลี้ยงตัวเองได้ด้านภาวนาชบาไพรศิษย์ครูสุรพลสมบัติเจริญซึ่งเป็นผู้ที่คอยให้ความช่วยเหลือกิ่งแก้วอยู่เป็นระยะๆเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าหลังจากย้ายการรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์เพื่อขอสิทธิ์รักษาและไม่มีญาติติดต่อมาเลยต้องย้ายมาที่สถานแรกรับคนไร้ที่พึ่งซึ่ง

ตอนนี้สภาพร่างกายของกิ่งแก้วเขาดีขึ้นกว่าเดิมมากแล้วแต่ก่อนหน้านี้แย่มากๆตอนนี้ความจำบางครั้งจำได้บางครั้งก็จำไม่ได้เพราะเขาผ่าตัดเอาเนื้องอกที่สมองออกตอนแรกหมอจะผ่า2ครั้งแต่ผ่าได้ครั้งเดียวเพราะร่างกายกิ่งแก้วไม่ค่อยดีอายุมากแล้วหมอกลัวจะไม่ไหวตอนนี้เนื้องอกในสมองยังไม่หมดมันไปทับเส้นประสาทร่างกายซีกขวาเลยใช้การอะไรไม่ได้เดินก็ไม่ได้แล้วต้องนั่งรถเข็นพี่ก็จะมาเยี่ยมดูเขาอยู่เป็นระยะๆก็มีน้องชื่อละมุนวรำจิต

อาสาชาวบุรีรัมย์คอยดูแลผู้สื่อข่าวถามว่าลูกหลานของจริงแก้วมาดูแลบ้างหรือไม่ภาวนาบอกว่าไม่มีใครมาดูเลยลูกเขาก็บอกว่าไม่มีเวลามาดูเพราะต้องทำงานก่อนหน้านี้พวกเพื่อนๆนักร้องเราจัดคอนเสิร์ตช่วยเหลือกิ่งแก้วได้เงินมาหักไปก็เหลือไม่กี่หมื่นแรกๆเขาก็มาดูแลดีมาขอเงินเราก็ให้ไปตามที่เรามีมากน้อยตอนหลังเขาจะมาขอเงินที่มีไปซื้อคอมพิวเตอร์แต่เราไม่ให้บอกว่าต้องเอาไว้ดูแลหญ้ากิ่งแก้วตั้งแต่นั้นเขาก็ไม่มาหากิ่งแก้วอีกเลยคงงอนที่

ไม่ได้เงินไปซื้อคอมพิวเตอร์ตอนนี้เราก็สลับกันมาเยี่ยมเขาบ้างเพื่อนักร้องคนไหนว่างก็จะมาเยี่ยมแฟนเพลงก็มาช่วยกันบริจาคเงินไว้ซื้อข้าวของเครื่องใช้เช่นผ้าอ้อมผู้ใหญ่เราก็ดูแลกันไปตามอัตภาพเราโชคดีกว่ากิ่งแก้วเรามีกินมีใช้ไม่เดือดร้อนเราเห็นน้องๆนักร้องเดือดร้อนเรามันก็เลื่อนลูกทุ่งต้องช่วยต้องดูแลกันเราอิ่มน้องอดเราอยู่ไม่ได้อยากให้ทุกคนหันมาดูแลซึ่งกันและกันแฟนเพลงที่ยังรักยังจำกิ่งแก้วได้ก็เรียนเชิญมาช่วยกัน

นะครับผ่านมาราวๆ1ปีก็มีข่าวเศร้าในปลายปี2559ว่าอะไรกิ่งแก้วศรีสาครลูกทุ่งเสียงดีต้นฉบับเพลงโรงแรมใจเสียชีวิตอย่างสงบในวัย71ปีเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่20พฤศจิกายนในปี2559หลังจากล้มป่วยมานานและผ่าตัดสมองเมื่อ3-4ปีที่แล้วโดยอยู่ในการดูแลของสถานคุ้มครองผู้ไร้ที่พึ่งนนทบุรีจากนั้นย้ายไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งหญิงจนกระทั่งเสียชีวิตที่นี่ด้วยโรคเบาหวานโดยปกติแล้วตามธรรมเนียมของหน่วยงานจัดส่งร่างไป

ทำพิธีศพที่ปราจีนบุรีแต่พลังของชาวลูกทุ่งทำให้งานศพของกิ่งแก้วศรีสาครอบอุ่นมากด้วยน้ำใจดังรายงานข่าวต่อไปนี้ซึ้งใจพลังชาวลูกทุ่งงานศพกิ่งแก้วสมเกียรติภาวนาชบาไพรศิษย์วงดนตรีสุรพลสมบัติเจริญเป็นตัวตั้งตัวทีในการนำร่างกิ่งแก้วศรีสาครมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดภาณุรังษีบางพลัดกรุงเทพฯโดยมีนักร้องชื่อโจโจ้อิทเป็นผู้บริจาคโลงศพให้และส่วนพระอภิธรรมศพ2คืนโดยคืนวันที่23/2รอบเพื่อให้ครบ3คืนจากนั้นฌาปนกิจในวันพฤหัสบดีที่24พฤศจิกายน

เวลา16:00นโดยมีศิลปินแห่งชาติชัยชนะบุญนะโชติเป็นประธานในพิธีบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโดยมีบุตรชายของกิ่งแก้วและหลานชายซึ่งบวชหน้าไฟมาร่วมงานเมื่อศพขึ้นสู่เมรุศิลปินแห่งชาติไวพจน์เพชรสุพรรณได้แลประวัติและผลงานของกิ่งแก้วมีคุณสัมพันธ์พัทลุงเป็นผู้อ่านประวัติของกิ่งแก้วสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมแซ่บชาแนลออกค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารรับรองแขกตลอดทุกคืนหลังจากนั้นได้จัดให้มีการแสดงคอนเสิร์ตบนเวทีในระหว่างประชุมเพลิงโดยมีภาวนาชบาไพรขึ้นขอบคุณผู้ร่วมงานบน

เวทีและร้องเพลงซึ่งมีนักร้องและคนในวงการมาร่วมงานกันมากมายนอกจากนี้ยังมีการผลิตแผ่นซีดีรวมเพลงของกิ่งแก้วศรีสาครจำนวน300แผ่นมอบให้ครอบครัวของกิ่งแก้วทั้งหมดและมีกำหนดทำบุญครบ100วันด้วยนี่คือวาระสุดท้ายของอดีตดาวเด่นกิ่งแก้วศรีสาครที่ฝากเสียงเพลงไพเราะส่งคุณค่าไว้ในวงการเพลงนับร้อยฝากร้อยทางชีวิตและสัจธรรมไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ข้อคิดทำความเข้าใจ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *