หายไปนานเลย ! อดีตลูกทุ่งดัง ที่แฟนๆสุดคิดถึง ( ประวัติ น้ำอ้อย พุ่มสุข )

เราอยากให้นำประวัติมา นำเสนอมากที่สุดคนหนึ่งก็คือน้อ้อย ภูมิสุขซึ่งยุคหนึ่งชื่อของเธอติดอยู่บน ริมฝีปากของคอเพลงลูกทุ่งถึงวันนี้ก็ยัง ติดอยู่ในใจใครหลายคนจนถามไถยเข้ามามาก มายว่าวันนี้เธอเป็นอย่างไรบ้างเหตุใดจึง เงียบหายไปเลยจากข้อมูลที่ปรากฏใน นิติยสารราชาเสียงทองฉบับวันจันทร์ที่ 19 มีนาคมปี 2527 คือเราราว 40 กว่าปีก่อน ได้บอกเล่าที่มาที่ไปของน้ำอ้อยพุ่มสุขมี ใจความโดยสรุปดังต่อไปนี้น้ำอ้อยพุ่มสุข

มีชื่อจริงว่านางสาวกฤตพรภูมิสุขมีชื่อ เล่นที่ญาติพี่น้องเรียกกันเล่นๆว่านอ้อย หรืออ้อยเกิดเมื่อวันที่ 19 กันยายนปี 2509 อ้อยเป็นชาวตำบลแสนแสบอำเภอมีนบุรี กรุงเทพมหานครมีพี่น้องทั้งหมด 7 คนโดย เธอเป็นคนโตพ่อของน้ำอ้อยเป็นคนงานส่งของ ส่วนแม่ทำงานอยู่ที่โรงงานทำวงล้อจักรยาน รายได้ของพ่อและแม่อยู่ในขั้นปริ่มๆเมื่อ ต้องเลี้ยงดูลูกๆทั้ง 7 คนน้ำอ้อยในฐานะ พี่คนโตจึงต้องรับหน้าที่ดูแลน้องแทนพ่อ แม่เธอเผยว่าอ้อยเลี้ยงน้องมาแทบจะทุกคน เลยนะคะอ้อยเลี้ยงเด็กเก่งนะจะบอกให้การ ที่เธอมีน้องจำนวนหลายคนนี่เองทำให้น้ำ อ้อยต้องพบกับความลำบากตั้งแต่อายุยังไม่

ถึง 10 ขวบเธอเล่าว่าอ้อยต้องทำงานบ้าน แทบทุกอย่างแทนแม่อ้อยไม่เคยได้วิ่งเล่น เหมือนเด็กคนอื่นเขาหรอกค่ะทำแต่งานทั้ง วันเวลาไปเรียนหนังสือก็ได้เงินเพียงวัน ละ 50 สตางค์ได้ 50 ตังค์นี่ก็ดีแล้วนะคะ บางวันถ้าแม่ไม่มีอ้อยก็ไม่ได้ตังค์ไปโรง เรียนอ้อยอดจนชินแล้วค่ะหลังจากน้ำอ้อย เรียนจบชั้นป 6 และเล็งเห็นว่าแม่ได้ พยายามกระเบียดกระเสียนอย่างที่สุดที่จะ ให้เธอได้เรียนหนังสือจนจบเธอก็ตัดสินใจ เสียสละที่จะไม่เรียนต่อแม้ว่าในใจเธอ เห็นความสำคัญของการศึกษาเธอเล่าว่าอ้อย ทนเห็นพ่อกับแม่ทำงานหนักไม่ไหวค่ะถึง อ้อยจะทนเรียนต่อไปก็คงจะไม่มีความสบายใจ

แน่นอนอ้อยจึงตัดสินใจไม่เรียนต่อค่ะอ้อย สงสารแม่ในขณะที่เธอกล่าวคำพูดนี้ออกมา น้ำเสียงก็ขาดหายเป็นห้วงราวกับว่าความ จริงในใจสะเทือนความรู้สึกในอดีตของเธอ เป็นอย่างยิ่งเธอเล่าต่อไปว่าอยู่บ้าน เลี้ยงน้องจนน้องสาวสช่วยตัวเองได้แล้ว อ้อยก็ขวนขวายที่จะหารายได้มาช่วย ครอบครัวโดยงานแรกที่เธอได้ทำก็คือรับ จ้างเลี้ยงเด็กซึ่งได้ค่าจ้างเพียงเดือน ละ 300 บาทแต่ก็นับว่าเป็นงานที่เธอมี ความถนัดมากเป็นพิเศษสิ่งที่น่าทึ่งและ น่าชื่นชมยิ่งก็คือแม้ว่าน้ำอ้อยจะได้ค่า จ้างเพียงเดือนละ 300 บาทแต่ทุกๆเดือนเธอ ได้มอบเงิน 280 บาทให้กับแม่เป็นเช่นนี้

อยู่กระทั่งครบ 2 ปีเต็มแม้จะเป็นเงิน เพียงเล็กน้อยแต่เงินจำนวนนี้ก็สามารถ ช่วยให้ครอบครัวทุกๆคนได้ได้กินอิ่มมาก ขึ้นกว่าเดิมน้ำอ้อยเผยว่าตอนที่อ้อยได้ เงินมาให้แม่อ้อยดีใจมากเลยค่ะรู้สึกว่า มันช่างมากมายเสียเหลือเกินโธ่ก็มันมาก กว่า 50 ตังค์ตั้งเยอะแค่ะต่อมามีคนชัก ชวนให้อ้อยไปทำงานเป็นคนงานทำสนามหญ้าโดย ได้ค่าจ้างวันละ 40 บาทอ้อยตอบตกลงโดยไม่ ต้องตรึกตรองอะไรสักนิดเพียงแค่รู้ว่าจะ สามารถหาเงินมาช่วยแม่ได้ก็พอแล้วสำหรับ เธอทำงานสนามหญ้าได้ไม่นานทางโรงงาน osc ที่บางชันก็เปิดรับสมัครคนงานน้ำอ้อยจึง ไปสมัครและได้เข้าเขทำงานในเวลาต่อมาโดย

ได้ค่าแรงวันละ 65 บาทเธอได้ทำงานใน ตำแหน่งตกแต่งเฟอร์นิเจอร์หวายให้แลดู เรียบร้อยพร้อมที่จะส่งออกไปขายเมืองนอก ถือได้ว่าการเงินของเธอเริ่มเป็นปึกแผ่น ขึ้นทีละน้อยทีละน้อยน้ำอ้อยเริ่มจะพอมี เงินซื้อเสื้อผ้าใส่เหมือนคนอื่นเขาบ้าง แต่ก็นานๆครั้งเท่านั้นอ้อยเริ่มมีเพื่อน เริ่มรู้จักพูดคุยสนุกสนานเฮฮาแต่ก็ไม่ เคยไปเที่ยวที่ไหนเลยสักครั้งเธอเล่าว่า อย่างอ้อยจะไปไหนได้คะวคนึงรับเงินแค่ 600 กว่าให้แม่ไป 500 มั่ง 600 มั่งเหลือแค่ พอค่ารถเท่านั้นแหละค่ะจะเห็นว่าความ กตัญญูรู้ขุณของเธอมีอย่างเต็มเปี่ยม สำหรับเส้นทางการเข้ามาเป็นนักร้องนั้น

น้ำอ้อยพุ่มสุขเผยว่าอ้อยเริ่มหัดร้อง เพลงมาตั้งแต่เริ่มเข้าโรงเรียนนักร้อง ที่อ้อยชื่นชอบมากก็คือสายันสัญญาแต่เพลง ที่อ้อยชอบร้องมากก็คือทุกเพลงของพุ่มพวง ดวงจันทร์อ้อยเริ่มลงสนามประกวดร้องเพลง ครั้งแรกที่สถานีวิทยุเสียงสามยอดเมื่อ ตอนอายุ 15 ปีได้ตำแหน่งชนะเลิศฝ่ายหญิง มาครองทุกอาทิตย์ถ้าพอจะมีเวลาว่างไ้มัก จะไปดูเขประกวดร้องเพลงที่รามอินทรากม 8 หรือแถวคู่บอลซึ่งเป็นเวทีที่จัดโดยคุณ มณฑลมัธุรสนั่นเองหลังจากได้เฝ้าดูอยู่ หลายครั้งน้ำอ้อยจึงตัดสินใจสมัครประกวด ร้องเพลงกับเขาดูบ้างปรากฏว่าเธอสามารถ คว้าชัยชนะมาได้อย่างขาดลอยจนมีโอกาสได้

เข้ามาร้องแข่งขันในรายการชุมทางคนเด่น ทางช่อง 7 สีอ้อยชนะในรอบสัปดาห์ชนะในรอบ เดือนสู่การชิงชัยในรอบปีและจากการดูแล ของคุณมณฑลมัธุรสที่แนะนำให้อ้อยเปลี่ยน แนวการร้องจากพุ้มพวงมาเป็นแนวของผ่องศรี ด้วยเหตุผลที่ว่าเสียงของน้ำอ้อยใกล้ เคียงกับผ่องศรีวรนุชมากกว่าก็มีส่วนทำ ให้เธอชนะใจคณะกรรมการและผู้ชมผู้ฟังได้ มากขึ้นน้ำอ้อยภูมิสุขเล่าย้อนหลังว่า อ้อยก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าพออ้อยเปลี่ยน แนวการร้องแล้วจะมีโอกาสดีขนาดนี้และแล้ว ในวันที่ 4 มกราคมปี 2527 ณโรงละครแห่ง ชาติน้ำอ้อยพุ่มสุขได้พาเพลงน้ำตาเมีย หลวงและจันทร์อ้อนเอาชนะใจกรรการได้อย่าง

เป็นเอกฉันท์และเธอก็คว้ารางวัลเงิน 100,000 บาททีวีสีวิดีโอเทปสร้อยทองคำ และของมีค่าอีกหลายอย่างมาไว้ในครอบครอง อย่างที่ไม่เคยคาดฝันมาก่อนเธอเผยว่าภูมิ ใจมากค่ะไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะชนะหรือ มีโอกาสรับรางวัลมากมายขนาดนี้เมื่อก่อน ขนาดจะซื้อทีวีเครื่องเล็กๆก็ยังคิดกัน เป็นปีแถมไม่มีปัญญาจะซื้อด้วยสิคะตอนที่ เขาประกาศชื่อหูอ้อยอื้อไปหมดเลยค่ะไม่ เคยมีใครบอกอ้อยเลยว่าอ้อยจะชนะอ้อยโชคดี มากจริงๆค่ะผู้ผสัมภาษณ์ให้ความเห็นว่า การที่เธอชนะรางวัลครั้งนี้นอกจากจะมีโชค มีฝีมือแล้วคงเป็นผลของความกตัญญูรู้คุณ ด้วยน้ำอ้อยพุ่มสุขเล่าต่อไปว่าเงินที่

ได้จากการประกวดอ้อยก็เอาไปซื้อที่ดิน เพื่อจะได้เก็บเงินเก็บทองไว้สร้างบ้าน เป็นของตัวเองจะได้ไม่ต้องเช่าเขาอยู่ อย่างทุกวันนี้หลังจากที่เธอชนะการประกวด น้ำอ้อยภูมิสุขก็ได้รับการทาบทามให้อัด แผ่นเสียงชุดแรกในชื่อชุดเคยรักใครจริง บ้างไหหมเธอได้รับค่าตอบแทนมา 10,000 บาท โดยน้ำอ้อยบอกว่าจะเก็บเอาไว้ปลูกบ้าน สำหรับเพลงในชุดเคยรักใครจริงบ้างไหหมก็ มีเพลงหลีกไม่พ้นมันอยู่ในความทรงจำใจเธอ ไม่มีฉันเป็นต้นเมื่อถามว่างานเพลงชุดนี้ เธอคาดหวังมากน้อยแค่ไหนน้ำอ้อยตอบว่า อ้อยไม่ได้หวังความดังอะไรมากมายเลยค่ะขอ แต่เพียงให้อ้อยสามารถหาเงินส่งเสียทาง

บ้านให้ทุกคนสบายอ้อยก็มีความสุขแล้ว สำหรับเรื่องอนาคตในตอนนั้นเธอเผยให้ฟัง ว่าอ้อยคิดฝันอยู่เสมอว่าวันใดที่สามารถ เก็บเงินเก็บทองได้เป็นกอบเป็นกรรมแล้ว ล่ะก็จะต้องหาความรู้ใส่ตัวให้จงได้อ้อย จะไปเรียนเสริมสวยค่ะหรือไม่ก็เรียนภาษา อังกฤษทุกวันนี้อ้อยเป็นคนโง่รู้อะไรไม่ ค่อยทันเขอ้อยอยากมีความรู้จะได้ไม่มีใคร มาหลอกอ้อยได้ไงคะหลังจากปล่อยผลงานชุด แรกออกมาต่อมาน้ำอ้อยภูมิสุขก็ได้ออกผล งานชุดเพลงอมตะเงินล้านในสังกัดจระเข้ โปรโมชั่นซึ่งร้องไว้ถึง 20 ชุดชุดที่ได้ รับความนิยมสูงมากก็คือชุดเอียงแก้มคอย ซึ่งทำดนตรีโดยอาจารย์หนุ่มภูทัยรักกัน

ยังไม่ทันถึงพี่ไงพี่ถึงลืมไปเลย จากนั้นน้ำอ้อยภูมิสุขก็มีผลงานเพลงออกมา อีกปราบรายในสังกัดอื่นๆก่อนจะเงียบหายไป จากวงการเพลงจนแฟนเพลงเก่าๆบ่นคิดถึงกัน ระงมจะว่าไปแล้วหากจัดอันดับนักร้องดังใน อดีตที่แฟนเพลงคิดถึงมากที่สุดชื่อน้ำ อ้อยภูมิสุขน่าจะติดอันดับต้นๆอย่างแน่ นอนอย่างไรก็ตามข้อมูลที่แน่ชัดว่าน้ำ อ้อยภูมิสุขในวัย 57 ย่างเข้า 58 ปีในพ.ศ นี้เธอใช้ชีวิตอยู่ที่ไหนยังอยู่ย่านเดิม ที่มีนบุรีกรุงเทพฯหรือว่าอยู่ต่างประเทศ กับครอบครัวตามที่มีผู้กล่าวไว้ในโลก ออนไลน์ก็ลือว่าเธอเสียชีวิตแล้วหากแฟน รายการหรือผู้รู้ท่านใดทราบข้อมูลแน่ชัด

เกี่ยวกับอดีตนักร้องดังน้ำอ้อยภูมิสุขก็ ช่วยส่งข่าวให้ทราบบ้างนะครับทางเรายัง ไม่กล้าฟันธงว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่หวังว่าท่านยังมีสุขภาพดีมีความสุขใน ชีวิตและได้รับทราบว่ามีแฟนเพลงมากมายที่ ระลึกนึกถึงนำอ้อยภูมิสุขอยู่เสมอ หนุ่ม ทุมกระจมมทองฝากเพลงรักลอย ลอง สใจ ฉันหัวดี Channel ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิง จากนิติยสารราชาเสียงทองขอบคุณภาพและเพลง ตัวอย่างที่มีผู้ลงไว้ขอบคุณมากครับ