ขอน้อมกราบองค์พระผู้มีพระภาคเจ้าคุณพ่อแม่ครูบาอาจารย์ธรรมะสวัสดีท่านผู้ฟังกัลิยาณมิตรทุกท่านวันนี้บุญธรรมchชannลขอนำเสนอในหัวข้อโหรหลวงทำนายรัชกาลที่11รัชกาลที่12ผู้ใดได้ครองราชย์ท่านผู้ฟังคะวันนี้ช่องของเราจะนำพาทุกท่านได้ย้อนเวลากลบไปในสมัยรัชกาลที่1แห่งกรุงรัตนโกสินทร์เมื่อครั้งที่สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชพระองค์ท่านได้ทรงโปรดให้โหราธิบดีหลวงได้ทำนายโชคชะตาของบ้านเมืองว่าจะดำเนินไปอย่างไรในอนาคตคำทำนายนั้นมิได้
บอกเพียงเรื่องราวของบ้านเมืองเท่านั้นแต่ยังได้ทำนายถึงกษัตริย์ในแต่ละรัชกาลรวมเป็น12ยุค12รัชกาลด้วยกันโดยเฉพาะรัชกาลที่11และ12ที่มีคำบรรยายไว้ชัดเจนจนทำให้ผู้ที่ได้ฟังต้องขนลุกเพราะเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่ความรุ่งเรืองและคำบอกเล่าที่ชวนให้ตั้งคำถามว่าจะเป็นจริงดังคำทำนายหรือไม่ขอเชิญทุกท่านร่วมพิสูจน์ไปพร้อมกันได้เลยค่ะท่านผู้ฟังคะในการบริหารราชการแผ่นดินตั้งแต่สมัยโบราณมาพระมหากษัตริย์จะมีโหนประจำพระ
องค์เพื่อไว้ทำนายดวงชะตาบ้านเมืองว่าจะเป็นอย่างไรในอนาคตไว้ดูเลิกยามเมื่อจะออกทำศึกสงครามรวมทั้งทำนายดวงชะตาของพระองค์เองและบุคคลใกล้ชิดซึ่งโหนอีกอิทธิพลต่อการประกอบการตัดสินใจในชีวิตประจำและการบริหารบ้านเมืองของพระมหากษัตริย์ในสมัยนั้นเป็นอย่างมากดังเช่นโหราธิบดีหลวงในสมัยรัชกาลสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชรัชกาลที่1ที่ได้ทำนายถึงดวงชะตาของกรุงรัตนโกสินทร์เอาไว้อย่างน่าสนใจโดยมีการทำนาย12ยุคหรือ12รัชกาลซึ่งมีเนื้อหาใจความว่าในสมัย
รัชกาลที่1สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชวันหนึ่งเวลาเย็นขณะที่พระองค์ท่านประทับอยู่ณตำหนักท่านได้ตรัสต่อโหราจารย์ว่าเราจะให้ท่านโหราจารย์พยากรณ์โชคชะตาของกรุงรัตนโกสินทร์ว่าต่อไปในภายภาคหน้าจะเป็นอย่างไรพระโหราจึงได้กราบทูลว่าข้อข้าแต่พระอาญาไม่พ้นเกล้าการถวายคำพยากรณ์โชคชะตากรุงรัตนโกสินทร์เป็นเรื่องสำคัญจำรวจการพยากรณ์ด้วยความระมัดระวังต้องใช้ระยะเวลาถึง3วันถึงจะกราบทูลถวายคำพยากรณ์นั้นได้จากนั้นท่านโหราธิบดีจึงได้จดวันเวลาเดือนปีของวัน
ที่ลงหลักเมืองกรุงรัตนโกสินทร์ตามที่พระพุทธยอดฟ้าได้รับสั่งแล้วจึงกราบธุรากลับไปครั้นพอพอครบ3วันพระโหราธิบดีจึงมาเฝ้าตามที่นัดหมายเอาไว้และได้ถวายคำพยากรณ์ออกเป็น12ยุค12รัชกาลไว้ดังนี้รัชกาลที่1ชื่อว่ามหาการรัชกาลของพระองค์นี้มืดมากพระองค์ไม่รู้ที่จะดำเนินรัฐประสาทนโยบายไปในทิศทางไหนดีเพราะเป็นระยะเริ่มก่อสร้างกรุงรัชกาลที่2ชื่อว่าพ่านยักษ์ผู้ที่รับมอบสืบทอดราชสมบัติต่อจากพระองค์จะเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่อ่อนแอไม่มีความสามารถ
ในการปกครองรัชกาลที่3ชื่อว่ารักมิตรจะเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงโปรดที่จะทำสัญญาผูกสัมพันธไมตรีกับมิตรต่างประเทศอย่างมากรัชกาลที่4ชื่อว่าสนิทธรรมจะเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงพอพระราชหารฝักไฟในทางธรรมและพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมากรัชกาลที่5ชื่อว่าจำแขนขาดจะมีการเสียดินแดนให้แก่ต่างประเทศด้วยความจำใจคือแผ่นดินฝั่งขวาของแม่น้ำโขงรัชกาลที่6ชื่อว่าราชโจรจะมีพระราชาที่เปรียบเสมือนโจรคือพระเจ้าแผ่นดินที่จับจ่ายใช้สอยทรัพย์ศีลส่วนพระ
มหากษัตริย์มากรัชกาลที่7ชื่อว่าทันจะเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่มารับเคราะห์หนักตลอดรัชสมัยผู้คนพลเมืองต้องประสบกับภาวะข้าวยากมากแพงผู้คนอดอยากแร้นแค้นด้วยสภาวะเศรษฐกิจหลังสงครามและผลสืบเนื่องมาจากการซุ้งเฟ้อในรัชกาลก่อนจะมีการปลดข้าราชการออกเพราะไม่มีเงินเบี้ยวัดเงินปีให้เป็นสมัยที่เริ่มให้ประชาชนมีสิทธิ์มีเสียงสามารถเรียกร้องทุกข์แสดงความคิดเห็นถึงขั้นจะมีการกระทำที่รุนแรงมีการยึดอำนาจมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองรัชกาลที่8
ชื่อว่ายุคทมิฬยุคที่มีเรื่องเลวร้ายหลายประการเช่นสงครามใหญ่การเสียชีวิตของพระมหากษัตริย์การครองอำนาจโดยเผด็จการของทหารที่ต่อเนื่องไปจนถึงต้นยุครัชกาลที่9จนเกิดกรณี14ตุลาคม2516และ16ตุลาคม2519ประชาชาติจะต้องเสียสละทรัพย์สมบัติและเลือดเนื้อเพื่อรักษาไว้ซึ่งของส่วนใหญ่อันเป็นที่รักรัชกาลที่9ว่าถิ่นสะเกาหรือถิ่นกาเขาผู้ที่สืบสันตีวงศ์ราชสมบัติต่อมาจะเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่มีบุญญาธิการประเทศเจริญรุ่งเรืองได้รับอารยธรรมตะวัน
ตกมามากวิทยาการตะวันตกเฟื่องฟูในสมัยนั้นรวมทั้งจะมีการติดต่อกับชาวต่างชาติอย่างกว้างขวางรัชกาลที่10ชื่อว่าชาวศรีวิไลประชาชนพลเมืองจะถึงซึ่งอารยธรรมอันแท้จริงในยุคนี้ประเทศไทยจะเจริญรุ่งเรืองยิ่งทั้งทางวิทยาการและทางด้านเศรษฐกิจยุคที่11ชื่อว่าไทยมหารัฐประเทศไทยจะเป็นมหาอำนาจในยุคนี้ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของนานาชาติทางด้านสันติภาพต่างชาติต่างก็จะเข้ามาเจรตาสันติภาพสงบสื่อการรบที่เมืองไทยเมืองไทยเหล่านี้จะ
มีอาหารอุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลกมีเทคโนโลยีทางการแพทย์เจริญและเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของโลกโดยจะบังเกิดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่เกิดขึ้นผู้คนจะหลั่งไหลมาที่นี่เพื่อชื่นชมสิ่งนี้ไทยจะเป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนาของโลกในยุครัชกาลที่12ชื่อว่าจักรพรรดิราชพระเจ้าแผ่นดินจะเป็นถึงสมเด็จพระมหาจักรพรรดิในยุคนี้พระราชาองค์นี้จะมีบารมีพิเศษเสด็จจุติมาจากสวรรคลัยชั้นดุสิตเขตบรมโพธิสัตว์ทรงมีบารมีมากกว่าผู้นำประเทศคนใดๆในโลก
ในตอนนั้นประเทศไทยจะเป็นมหาอำนาจทางวัฒนธรรมนานาชาติจะให้ความเคารพยำเกรงยิ่งกว่าประเทศที่มีอาวุธยุทโธปกรณจำนวนมากพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขย่อมก่อให้เกิดความจงรักภักดีขึ้นในบรรดาประชาชนทำให้ประชาชนสมัครสมานสามัคคีกันเพราะรู้สึกว่าอยู่ใต้พระมหากษัตริย์องค์เดียวกันพระมหากษัตริย์ยุคนี้จะเป็นกลางในทางการเมืองต่างกับประมุขของรัฐแบบอื่นๆซึ่งต้องเกลือกกลัวอยู่กับการเมืองเพราะต้องคอยพระวงกับเรื่องคะแนนเสียงที่ตนจะ
ได้รับในการเลือกตั้งในขณะที่พระมหากษัตริย์สืบราชสันตีวงศ์ตามกฎหมายโดยไม่ต้องเลือกตั้งและเป็นประมุขถาวรจึงไม่ต้องเอาใจบุคคลหนึ่งหรือคณะหนึ่งคณะใดเพราะหวังในการเลือกตั้งคราวหน้าทำให้ทรงวางพระองค์เป็นกลางทางการเมืองได้และทรงมีความชัดเจนในราชการแผ่นดินมากกว่าบุคคลธรรมดาซึ่งถูกเลือกมาดำรงตำแหนะเวลาหนึ่งท่านผู้ฟังคะและทั้งหมดนี้คือคำทำนายของโหราธิบดีในรัชกาลที่1ที่บันทึกไว้เป็นตำนานสืบต่อกันมาอย่างยาวนานกว่า200ปี
ทำทำนายดังกล่าวมีทั้งเรื่องที่ตรงกับเหตุการณ์จริงและบางส่วนที่อาจยังคงเป็นเพียงตำนานดังนั้นขอให้ผู้ฟังทุกท่านได้ใช้วิจารณญาณในการรับชมรับฟังเนื่องจากนี่เป็นคำทำนายเชิงโหราศาสตร์ไม่ใช่ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์แต่อย่างใดถ้าท่านชอบเนื้อหาธรรมะความเชื่อเกล็ดความรู้เชิงประวัติศาสตร์แบบนี้อย่าลืมกดติดตามบุญธรรมChannelเพื่อไม่พลาดคลิปต่อไปนะคะแล้วพบกันใหม่ในคลิปหน้าสวัสดีค่ะ
